แค้นเสน่หา KhanSanehha
แค้นเสน่หา KhanSanehha
บทประพันธ์โดย : วราภา
บทโทรทัศน์โดย : ศัลยา
กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ออกอากาศทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เรื่องย่อแค้นเสน่หา
วันนั้นหม่อมบุหลัน ของหม่อมเจ้ารังสิโยภาสแห่งวังรังสิยา ยืนมองเรือประทับของท่านชายแล่นออกจากท่า มองเห็นแสงตะเกียงอ่อนลงจนลับหายไปในที่สุด ในโสตประสาทยังแว่วเสียงสั่งเสียของท่านชายว่า ถ้าบุหลันคลอดลูกก่อนท่านเสด็จกลับ ให้ตั้งชื่อลูกชายว่าหม่อมราชวงศ์ศักดินา ถ้าเป็นลูกหญิงให้ชื่อว่าหม่อมราชวงศ์หญิงวิมลโพยม พร้อมทั้งถอดสร้อยพระศอและเหรียญประทาน โดยท่านชายย้ำว่า ได้ฝากฝังบุหลันไว้กับหม่อมเจ้าหญิงแขไขเจิดจรัส พระชายาเรียบร้อยแล้ว
นั่นแหละคือสิ่งที่บุหลันหวาดกลัว โดยเฉพาะนางเฟือง พระพี่เลี้ยงผู้จงรักภักดีของท่านหญิง นางเฟืองจึงแค้นแทนท่านหญิง ที่ท่านชายยกเด็กกำพร้าหลานสาวหัวหน้าห้องเครื่องวังรังสิยามาเป็นหม่อม บุหลันสังหรณ์ใจตลอดเวลาว่านางเฟืองผู้นี้แหละคือศัตรูตัวสำคัญ
คืนวันหนึ่ง เสียงฝ่ามือนางเฟืองฟาดลงบนแก้มของบุหลัน พร้อมคำอาฆาตรุนแรงว่า ใครทรยศต่อท่านหญิงมันผู้นั้นต้องตาย บุหลันนัยน์ตาเหลือกลาน ขณะที่ถูกลากตัวมายังเรือนแพริมท้องน้ำที่ประตูเปิดกว้างรอคอย คำสั่งนางเฟืองให้ฆ่าบุหลัน แล้วพาไปทิ้งน้ำ บุหลันรู้สึกวาบหวิวขณะที่ปวดท้องอย่างรุนแรง เสียงฟ้าคำรามเปรี้ยง ฝนตกกระหน่ำกลบเสียงหวีดร้องของบุหลันยามใกล้คลอด เสียงหวีดสุดท้ายดังขึ้นพร้อมเสียงอุแว้ของทารกเกิดใหม่ดังกังวานไปทั่วคุ้งน้ำ
เวลาดึกคืนวันนั้น นางเฟืองอุ้มทารกน้อยเพศชายคนหนึ่งมาถวายท่านหญิงพร้อมทูลว่าบุหลันคลอดลูกชายและยกถวายให้เป็นลูกชายท่านหญิง ท่านหญิงแปลกพระทัยแต่ก็หลงรักทารกตั้งแต่แรกเห็น หารู้ไม่ว่าขณะนั้นแม่ของเด็กชายนอนสลบอยู่ในเรือที่ไอ้ยอด บ่าวในเรือนพายมุ่งหน้าไปยังรอยตะเข็บแม่น้ำต่อกับทะเล เมื่อถึงที่หมายขณะที่ไอ้ยอดกำลังจะผลักร่างของบุหลันลงน้ำ มันก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อมันได้ยินเสียงร้องของทารกอีกคนหนึ่ง
ไกลออกไปตามแม่น้ำสายเดียวกัน ที่บ้านปัณณธร คุณหญิงเพ็ง ปัณณธร พจน์ลูกชายคนเดียวและฉัตต์ลูกชายวัยห้าขวบของพจน์ กำลังเศร้าโศกอย่างยิ่ง เพราะราตรีภรรยาที่รักยิ่งของพจน์เพิ่งจะเสียชีวิตในวันนั้น วันเดียวกันละเมียดต้นห้องของคุณหญิงเพ็งวิ่งมาบอกว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง มานอนสลบอยู่ที่ท่าน้ำ พร้อมด้วยชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นใบ้และทารกเพศหญิงอีกหนึ่งคน คุณหญิงเวทนาจึงรับทั้ง 3 ชีวิตให้อาศัยในบ้านปัณณธรต่อไป
ผู้หญิงที่มากับสายน้ำให้ทุกคนเรียกว่า จันทร์ ตั้งชื่อลูกสาวว่า รุ้ง จันทร์เป็นที่รักของคนทั้งบ้านโดยเฉพาะคุณหญิงเพ็ง เพราะจันทร์ขยันขันแข็งช่วยงานทุกอย่างในบ้านโดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ฝีมือ เช่น ทำอาหาร ร้อยดอกไม้ แกะสลักผลไม้และเย็บเสื้อผ้า คุณหญิงพอใจในตัวจันทร์มากถึงขนาดอยากให้เป็นลูกสะใภ้ พจน์เองแม้จะอาลัยอาวรณ์ภรรยาที่ล่วงลับไปแล้วก็ยังใจอ่อนต่อความดีและความอ่อนหวานของจันทร์ นอกจากนี้จันทร์ยังเป็นแม่นมของจริมา ลูกสาววัยแค่เดือนเศษของพจน์ด้วย จันทร์รักและทะนุถนอมจริมาเช่นเดียวกับรุ้งลูกสาวของตนเอง
คนเดียวทีไม่พอใจอย่างยิ่งคือฉัตต์ ลูกชายคนโตของพจน์ ฉัตต์ปักใจว่าเป็นเพราะคนพวกนั้นแม่ของตนถึงตาย ฉัตต์ลั่นวาจาว่าเกลียดที่สุด และความเกลียดชังนั้นไม่เคยจางหายจนกระทั่งเขาโตเป็นหนุ่ม
ท่านชายรังสิโยภาสกลับมาถึงวังพบแต่ลูกชายของบุหลัน ส่วนตัวบุหลัน นางเฟืองทูลว่าหนีไปกับชู้คือไอ้ยอด ท่านชายไม่เชื่อว่าบุหลันจะเลวขนาดนั้นแต่ก็อดระแวงไม่ได้ มีผลทำให้ทรงไม่เอาใจใส่คุณชายศักดินา รวมทั้งท่าทีเฉยชาไม่สนใจท่านหญิง จนถึงวันที่ท่านชายลั่นวาจาว่าถ้ารู้ว่าใครเป็นตัวการเรื่องบุหลันจะทรงฆ่าด้วยองค์เอง โดยเฉพาะนางเฟืองที่ทรงรังเกียจอย่างยิ่ง ท่านชายรับสั่งจบ ทรงปิดประตูใส่พักตร์ท่านหญิง นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาสายใยความเป็นสามีภรรยาที่เกาะเกี่ยวอยู่เพียงบางเบาก็ขาดสะบั้น
ท่านชายสงสัยนางเฟืองตลอดเวลาว่าต้องมีส่วนในเรื่องราวของบุหลัน ทรงไม่ต้องรอนานเรื่องราวของนางเฟืองก็จบลง ไอ้แคล้วหลานชายนางเฟือง ผู้สมรู้ร่วมคิดฆ่าบุหลันกลับมาขู่เข็นเอาเงิน นางเฟืองจึงฆ่าไอ้แคล้ว แต่มันยังมีชีวิตอยู่จนสารภาพทุกอย่างกับท่านชายก่อนสิ้นใจ ท่านชายเรียกนางเฟืองมาต่อหน้าพระพักตร์ต่อหน้าท่านหญิงด้วย ท่านชายเล่าถึงความโหดร้ายของนางเฟืองที่ทำต่อบุหลัน รับสั่งให้ขังนางเฟืองเพื่อจะส่งตำรวจในวันรุ่งขึ้น แต่คนใจเด็ดอย่างนางเฟืองหรือจะยอมให้ตัวเองถึงมือตำรวจ นางเฟืองเชือดคอตายต่อหน้าพระพักตร์ท่านชายเช่นกัน
ท่านหญิงทรงเปิดจดหมายที่นางเฟืองทิ้งไว้ให้ จดหมายนั้นบอกว่าแม้ตายไปวิญญาณก็จะคอยปกป้องท่านหญิง นางเฟืองทำตามคำในจดหมายทุกอย่าง วิญญาณนางเฟืองอยู่กับท่านหญิงตลอดเวลา คอยปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายตลอด แต่วิญญาณจงรักภักดีของนางเฟืองไม่ช่วยปัดเป่าความเศร้าหมองลึกซึ้งของท่านหญิงอันเกิดจากท่าทีหมางเมินไม่มีเยื่อใยของท่านชาย ท่านหญิงกลายเป็นคนซึมเศร้าหมดอาลัยตายอยากในชีวิต วิญญาณนางเฟืองทนไม่ได้ ดังนั้นเวลาโพล้เพล้ของวันหนึ่ง ท่านชายทรงประทับอยู่หัวบันได เนตรมองจ้องที่ร่างของท่านหญิงที่ถูกซ้อนทับด้วยร่างของนางเฟือง แววตาเยือกเย็นเหี้ยมโหด รอยยิ้มหยามหยันเหมือนนางเฟือง ที่จมกองเลือดตายในวันนั้น ท่านชายโบกพระหัตถ์ไล่อย่างหวาดกลัว ส่งเสียงร้องโหยหวนก้องวังในขณะที่ทรงเสียหลักกลิ้งหล่นมาตามขั้นบันได ท่านชายเป็นอัมพาตต้องทรงนอนนิ่งจากนั้นเป็นต้นมา
จันทร์กับรุ้งอยู่เป็นสุขในความเมตตาของเจ้าของบ้านปัณณธร เว้นแต่ฉัตต์ผู้ที่ยังแค้นและเกลียดชัง รุ้งคือผู้รับบาป ฉัตต์เกลียดรุ้งและแสดงออกทั้งวาจาและกริยา วันหนึ่งถึงขนาดผลักรุ้งกระเด็น พจน์ลงโทษให้รุ้งเฆี่ยนฉัตต์ ไม่มีใครคิดว่ารุ้งจะยอมทำแต่รุ้งยอม ด้วยเหตุผลที่รุ้งรู้อยู่คนเดียวว่าถ้ารุ้งไม่เฆี่ยน พจน์ต้องเฆี่ยนเสียเอง และฉัตต์จะเจ็บมากกว่าเป็นเท่าตัว เหตุการณ์นี้ทำให้ฉัตต์เพิ่มความเกลียดชังรุ้งขึ้นอีก ทำให้ฉัตต์เป็นไม้เบื่อไม้เมากับจริมาน้องสาว ผู้ที่รักรุ้งเหมือนพี่น้องแท้ ๆ จริมาคอยปกป้องรุ้งจากการกลั่นแกล้งของฉัตต์ตลอดเวลา
คุณหญิงเพ็งพอใจจันทร์มากขึ้นเป็นลำดับ ถึงกับบอกกับพจน์ให้บอกกับจันทร์ว่าคุณหญิงจะขอจันทร์เป็นแม่จริง ๆ ของจริมา พจน์พอใจจันทร์เป็นทุนอยู่แล้ว แต่คำตอบของจันทร์คือ เธอจะซื่อสัตย์ต่อสามีจนวันตาย พจน์ประทับใจมาก แต่คุณหญิงผิดหวังอย่างแรง พจน์ปลอบคุณหญิงว่า ถึงจะไม่ได้ลูกสะใภ้แต่คุณหญิงก็ได้ลูกสาวและหลานสาวคนใหม่ คุณหญิงทำใจยอมพร้อมทั้งจัดงานรับขวัญจันทร์และรุ้งอย่างยิ่งใหญ่ คนในวงสังคมจึงรับรู้ว่าจันทร์คือน้องสาวของพจน์ และรุ้งคือหลานสาวของคุณหญิง พร้อมทั้งให้ใช้นามสกุล ปัณณธรอีกด้วย
วันหนึ่งที่บ้านปัณณธรปรากฏร่างของเด็กชายหน้าตาดี ท่าทางภาคภูมิ นำผลไม้ต่างประเทศหลากหลายมาเยี่ยมคุณหญิง และเพื่อแจ้งข่าวการสิ้นพระชนม์ของท่านพ่อ ฉัตต์เรียกเพื่อนนักเรียนโรงเรียนเดียวกันนี้ว่าชายเดียว คุณหญิงเรียกจันทร์ให้ไปงานศพท่านชายรังสิโยภาสด้วย จันทร์รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนและทุกอย่างนิ่งสนิท ความรักความอาลัยท่วมหัวใจ
ที่งานศพ สายพระเนตรของท่านผู้หญิงแขไขเจิดจรัส รวมทั้งท่านหญิงอัปสราภาน้องสาว ต่างก็จ้องที่จันทร์เป็นตาเดียว ความสงสัยเต็มพระทัยแม้จะรับรู้ว่าผู้หญิงที่หน้าเหมือนบุหลันคนนี้ชื่อ จันทร์ ปัณณธร
วันต่อมา จันทร์ขออนุญาตคุณหญิงว่าจะพารุ้งไปงานศพท่านชายด้วย คุณหญิงไม่อนุญาตเพราะไม่สมควรพาเด็กไปงานศพ จันทร์จำใจต้องเล่าความจริงให้พจน์ฟังว่าตนคือหม่อมบุหลัน และรุ้งคือหม่อมราชวงค์หญิงวิมลโพยมน้องสาวฝาแฝดของคุณชายศักดินา เพื่อให้พจน์ช่วยให้รุ้งได้ไปกราบศพท่านพ่อ พจน์กระซิบต่อหน้าโกศท่านชายว่า อย่าได้ทรงห่วงใยคุณหญิงวิมลโพยมเพราะเขาจะดูแลให้เท่าเทียมลูกในไส้ของเขาเอง
เวลาของความตื้นตันใจอันใหญ่หลวงจันทร์ เมื่อพารุ้งไปกราบพระศพท่านพ่อและเพิ่มมากขึ้นเมื่อคุณชายศักดินา เข้ามาหมอบกราบพระศพท่านพ่อเคียงข้างรุ้ง ใบหน้าที่แหงนเงยอยู่เคียงคู่กันนั้น แม้จะต่างเพศกัน แต่คล้ายคลึงกันยังสังเกตได้ จันทร์สะท้อนถอนใจอยู่คนเดียวในขณะที่ท่านหญิงผู้ซึ่งทอดพระเนตรเห็นเช่นกัน ต้องข่มความรู้สึกตื่นเต้นหวั่นไหว ลูกสาวนางจันทร์ ปัณณธร ไฉนนอกจะเหมือนบุหลันแล้วลูกยังเหมือนชายเดียวอีกด้วย
พจน์บอกจันทร์ว่านางเฟืองตายแล้ว ถามจันทร์ว่าจะเปิดเผยความจริงหรือไม่ จันทร์ปฏิเสธเพราะไม่ต้องการดึงคุณชายศักดินาผู้สูงด้วยเกียรติยศให้ต่ำต้อยลง ส่วนรุ้ง จันทร์จะให้รู้ความจริงเมื่ออายุ 21 ปี จะเลือกและตัดสินใจว่าจะเรียกร้องความเป็น ม.ร.ว.วิมลโพยม คืนหรือไม่
สิบกว่าปีที่ผ่านไป เด็กทุกคนเติบโตขึ้น ฉัตต์ กำลังจะไปเรียนต่างประเทศ รุ้งและจริมาเรียนชั้นมัธยมปลายเช่นเดียวกับคุณชายเดียว ม.ร.วทอแสงรัศมี มีลูกสาวของท่านหญิงอัปสราภา น้องสาวของท่านหญิงแขไขเจิดจรัส เรียนชั้นเดียวโรงเรียนเดียวกับรุ้งและจริมา ก่อนฉัตต์ไปต่างประเทศ เขาซื้อแกรนด์เปียโนให้รุ้งเพราะรู้ว่ารุ้งชอบเล่นเปียโนมาก ทุกคนสงสัยว่าเหตุใดฉัตต์ยอมเสียเงินจำนวนมากให้รุ้ง ทั้งที่ใคร ๆ ก็รู้ว่าฉัตต์ไม่ชอบรุ้ง แต่สำหรับรุ้งทุกครั้งที่เห็นเปียโนเธอทั้งสุขทั้งเศร้าและคิดถึงฉัตต์อย่างรุนแรง
ฉัตต์ไปแล้ว คุณชายเดียวยังมาที่บ้านปัณณธรเป็นระยะ ๆ จันทร์เป็นสุขใจเมื่อมีโอกาสได้พบลูกชายบ้าง คนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับคุณชายเดียวก็คือจริมา ทุกครั้งที่พบกัน ทั้งสองจะเหมือนน้ำกับไฟ ทั้งจิกทั้งกัดไม่มีใครยอมใคร คนที่คุณชายเดียวรู้สึกผูกพันด้วยโดยไม่รู้สาเหตุก็คือรุ้ง ส่วนคุณหญิงทอแสงรัศมีแสดงให้รู้อย่างเปิดเผยว่าตนชอบคุณชายศักดินา เมื่อถูกขัดขวางจากหม่อมแม่ หญิงทอแสงจึงบอกให้รู้ว่าตนรู้เรื่องชาติกำเนิดของชายเดียวแล้ว จึงไม่แปลกอะไรที่เธอจะชอบ คุณชายเดียวไม่มีสายเลือดเกี่ยวข้องกัน แต่เธอไม่รู้หรือพยายามจะไม่รู้ว่า ชายเดียวไม่เคยมีความรู้สึกพิเศษ ๆ กับเธอ
พจน์เตรียมการให้จริมาไปเรียนต่างประเทศ ส่วนรุ้งประกาศอย่างเด็ดขาดว่าจะเรียนพยาบาล เพื่อจะได้ดูแล 3 คนที่รุ้งรักบูชาสุดหัวใจ คือคุณย่า ลุงพจน์ และแม่ พจน์เจ็บเป็นโรคร้ายจึงอยู่ได้ไม่เกินปีเดียว แต่สั่งจันทร์ให้ปิดทุกคน จริมามารู้โดยบังเอิญ เธอเสียใจมากที่สุดถึงกับจะไม่ยอมไปเรียน จันทร์ต้องสัญญาว่าจะให้จริมากลับมาดูใจพ่อ จริมาถึงยอมไป แต่สิ่งหนึ่งที่ผิดอย่างยิ่งก็คือ ไม่มีใครบอกฉัตต์ ฉัตต์ไม่รู้แม้แต่เรื่องพ่อเจ็บ เพราะพจน์เขียนจดหมายถึงฉัตต์เตรียมไว้ล่วงหน้าหลายฉบับ และส่งให้ฉัตต์เดือนละฉบับ พจน์มีชีวิตยืนยาวมาก จนมัจจุราชไม่อาจผ่อนผันได้อีกต่อไป ตั๋วเครื่องบินถูกส่งไปให้จริมา เพื่อมาดูใจบิดาในวันสุดท้าย ฉัตต์คนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้ความจริง ส่วนคุณชายเดียวเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ เหตุผลเพราะท่านหญิงสุขภาพอ่อนแอ ประชวรบ่อย ๆ คุณชายจึงไม่กล้าทิ้งท่านไปไกล
สถานะทางการเงินในบ้านปัณณธรเริ่มเป็นปัญหาใหญ่ ทั้งฉัตต์และจริมาเรียนต่างประเทศต้องใช้เงินจำนวนมาก คุณหญิงอนุญาตตามคำแนะนำของจันทร์และรุ้งให้เปิดสวนอาหารริมน้ำ กิจการสวนอาหารเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว เพราะอาหารอร่อยสถานที่สวยงามเจริญตา รุ้งบริหารงานในทุกรายละเอียด เพื่อให้สวนอาหารโตเร็วที่สุด ฉัตต์ได้รับเงินสม่ำเสมอแม้แต่เงินซื้อรถแทนคันเก่าที่ใช้การไม่ดี
ทอแสงรัศมีพยายามพาตัวมาใกล้ชิดคุณชายศักดินา แต่คุณชายไม่เคยมีไมตรีตอบ ใจคุณชายอยู่ที่รุ้ง นี่เองเป็นสาเหตุทีทำให้คุณชายมาที่ร้านอาหารบ่อย ๆ บางครั้งมาสั่งอาหารไทยโบราณไปถวายท่านแม่ ท่านหญิงพอพระทัยที่ได้เสวยอาหารที่คุ้นเคย บางครั้งความทรงจำเดิม ๆ ทำให้หวนคิดถึงฝีมือนางบุหลันที่เคยทำถวาย จนในที่สุดเมื่อทรงทราบว่า เป็นฝีมือของนางจันทร์ จึงรับสั่งให้คุณชายไปพามาเข้าเฝ้า แม้ว่าจะทรงไม่สบายพระทัยเลยด้วยเกรงว่าสิ่งที่ทรงคิดจะเป็นจริง วันหนึ่งคุณชายพารุ้งมาเฝ้าท่านหญิง รุ้งไม่รู้ตัวเลยว่าสายพระเนตรของท่านหญิงที่มองรุ้งเปลี่ยนแปรเป็นความเกลียดชัง ความอาฆาตแค้น และความมุ่งร้ายหมายชีวิตอย่างรุนแรง มันคือสายตาของใครคนหนึ่งที่แฝงฝังวิญญาณชั่วร้ายอยู่ในวังวนริษยา รอคอยเวลาที่จะเผาผลาญทุกคนที่บังอาจทำร้ายท่านหญิงให้พินาศไป
คนแรกที่โดนพิษความแค้นก็คือ นายหญิงอัปสราภาน้องสาวของท่านหญิงที่นางเฟืองรู้ว่ามีใจอิจฉาริษยาท่านหญิงเสมอมา วันหนึ่งท่านหญิงผู้เคราะห์ร้ายสินพระชนม์โดยไม่มีใครรู้สาเหตุ
ท่านหญิงทุรนทุรายอยู่ในกองเพลิงแห่งความชิงชัง เพราะเฟืองคอยเสี้ยมสอนปลุกปั่น ยุแหย่ ใส่ไฟอยู่ทุกวี่วัน ท่านหญิงปราศจากความสุข วิญญาณนางเฟืองยิ่งร้อนเร่า แผ่รังสีอำมหิตไปทั่ววัง มีคนเคราะห์ร้ายตายเพราะพยายามจะไปหาหมอผีมาปราบวิญญาณ แต่ไม่มีใครทานทนวิญญาณที่กล้าแกร่งของนางเฟืองได้ ในที่สุด เมื่อท่านหญิงว้าวุ้นใจถึงขนาดล้มเจ็บ นางเฟืองทั้งขู่ทั้งปลอบทั้งยืนยันว่าบุหลันตายแล้ว จันทร์ไม่ใช่บุหลัน แต่ท่านหญิงไม่ยอมเชื่อ
ชายเดียวนึกเป็นห่วงรุ้งอยู่ตลอดเวลา แต่เป็นความผูกพันที่เขาเองก็อธิบายไม่ได้ ชายเดียว คอยช่วยเหลือรุ้งอยู่ห่าง ๆ ในขณะที่จันทร์เองก็ทุกข์ใจ เพราะเกรงว่า เด็กทั้งสองจะรักกัน โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ความรู้สึกของรุ้งและชายเดียว เป็นความห่วงใยฉันท์พี่น้องเท่านั้น อีกคนหนึ่งที่ทุกข์ไม่แพ้กันก็คือคุณหญิงทอแสงรัศมี ทำอย่างไรจึงจะไม่เสียชายให้รุ้ง เธอนึกถึงฉัตต์ เธอเคยเห็นสายตาของฉัตต์ที่มองรุ้ง เธอรู้ตัวว่าภายใต้ความเกลียดชังคือความห่วงหาอาทร ทำอย่างไรให้ฉัตต์กลับมาเป็นผู้ขัดขวางความสัมพันธ์ของรุ้งและชายเดียว ทอแสงมั่นใจว่าฉัตต์รักรุ้ง ฉัตต์ต้องเอารุ้งคืนไปได้ แผนการร้ายผุดขึ้นในหัวของทอแสง จึงเขียนจดหมายในนามผู้หวังดีบอกฉัตต์ว่าพ่อตายแล้ว ฉัตต์โกรธจัดกลับเมืองไทยทันที อย่างที่ทอแสงรัศมีต้องการ โดยเธอและคนที่ถูกพายุอารมณ์พัดอย่างรุนแรงคือรุ้ง ฉัตต์อาละวาดเอาเรื่องรุ้งอย่างหนัก เรื่องสำคัญคือ ปิดบังเรื่องคุณพจน์ตายเพราะต้องการเปิดร้านอาหารเพื่อหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าของรุ้งและแม่จันทร์ รุ้งเงียบสนิทไม่บอกเหตุผลว่าต้องหาเงินมาก ๆ เพราะต้องส่งให้ฉัตต์กับจริมา
ฉัตต์ไม่รู้ว่าอะไรพัดพาให้เหตุการณ์ของเขาและรุ้งวุ่นวายขนาดนี้ ในเมื่อเขาคิดถึงรุ้งเกือบตลอดเวลาที่อยู่ต่างประเทศ ภาพของรุ้งตั้งแต่เด็กทารกเป็นเด็กหญิง จนรุ่นสาว เขายังจำได้ทุกบททุกตอน ด้วยความแค้นเขาอาละวาดกับรุ้งไล่รุ้งออกจากบ้าน มากกว่านั้นเขายังหลุดปากขอแต่งงานกับพิสินี เพื่อนสาวที่เรียนมาด้วยกัน ผู้ซึ่งเขารู้ว่าหลงรักเขาอยู่ เขาผูกมัดตัวเองขนาดนี้ใครจะช่วยคลายปมเหล่านี้ให้
จริมากลับจากต่างประเทศ เธอเรียนจบได้ปริญญาเรียบร้อย วันที่จริมากลับถึงบ้านคือวันที่ฉัตต์ไล่รุ้งออกจากบ้าน คุณชายเดียวพารุ้งไปพักที่วังรังสิยา และที่นั่น รุ้งต้องเผชิญกับแรงแค้นของนางเฟืองจนแทบเอาชีวิตไม่รอด นางเฟืองขอยืมมือทอแสงรัศมีเอายานอนหลับให้รุ้งกิน ดังนั้นเมื่อจันทร์ผู้ซึ่งแทบจะด่าวดิ้นสิ้นใจตาม ไปถึงไม่ปรากฏร่างของรุ้งอยู่ที่ใดเลยในวังรังสิมา ยอดตามจันทร์มาตามหารุ้งด้วย ทุกคนได้รู้ในวันนั้นว่ายอดไม่ได้เป็นใบ้
คนทั้งหมดมารวมกันที่วังรังสิยา จันทร์ ยอด จริมา คุณชายเดียว ฉัตต์ ทุกคนพยายามตามหารุ้งแต่ก็ไม่พบ ในห้องบรรทมของท่านหญิง วิญญาณนางเฟืองและท่านหญิงกำลังโต้เถียงกันอย่างดุเดือด ท่านหญิงผู้เสมือนมีแรงฮึดสุดท้ายวอนขอนางเฟืองว่าอย่าทำบาปต่อไปอีกเลย ขอให้นางเฟืองไปเกิดในภพใหม่เถิด นางเฟืองคำรามอย่างโกรธแค้นว่าไฟแค้นกำลังจะหมดสิ้นด้วยความตายของรุ้ง และนังบุหลันก็ต้องอกแตกตายตามลูกสาวมันไป ท่านหญิงอ้อนวอนอย่างสิ้นหวังว่าไฟแค้นนั้นกำลังเผาผลาญตัวท่านหญิงต่างหาก ขอให้นางเฟืองดับไฟนั้นเถิด มีคนตายไปหลายคนแล้วอย่าให้มีอีกเลยคำอ้อนวอนของท่านหญิงเหมือนสายลมพัดผ่าน เพียงแค่พริบตาเดียวผู้ซึ่งเฉลียวใจว่านางเฟืองคงพารุ้งไปที่เรือนข้าหลวงที่นางเฟืองเคยอยู่ ยอดตามไปและนั่นคือจุดจบของยอด ยอดตายด้วยอาการสยดสยอง นัยน์ตาเหลือกราญเหมือนกับเห็นสิ่งทีน่ากลัวที่สุด
ท่านหญิงไม่ใช่สื่อที่จะยอมนางเฟืองอีกต่อไป นางเฟืองจึงเข้าสิงทอแสงรัศมี ทุกคนมองร่างของทอแสงรัศมีที่เดินลงมาจากชั้นบน รู้ได้ทันทีว่านั่นไม่ใช่ตัวตนของทอแสงรัศมี นางเฟืองในร่างทอแสงรัศมีกล่าวคำอาฆาตแค้นกับจันทร์และบอกให้เตรียมตัวตาย จันทร์พนมมืออ้อนวอนนางเฟือง เสียงหัวเราะของทอแสงรัศมีดังก้องกังวานไปทั่ววังพร้อมกับแสยะปากบอกว่าเตรียมตัวพบศพของรุ้งได้ ฉัตต์ ชายเดียวพุ่งพรวดไปค้นหารุ้ง ทอแสงรัศมีหัวเราะเยาะหยันตามหลังว่าไม่มีวันพบก่อนที่รุ้งจะตาย จะพบต่อเมื่อรุ้งตายแล้วเท่านั้น
รุ้งนอนสลบอยู่ในห้องเก่าของนางเฟือง ในความรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น รุ้งรู้สึกว่ามีมือของใครคนหนึ่งที่หลั่งความปราณีผ่านมาที่มือ มือนั้นลูบหัวของเธอ เสียงอ่อนโยนแทรกเข้ามาอย่างแผ่วเบาให้เธอแผ่เมตตา ข้างนอกห้อง ชายเดียวพบสายสร้อยของรุ้งตกอยู่หน้าเรือนนางเฟือง สองหนุ่มกระโจนเข้าไปในห้องนางเฟือง แต่ว่างเปล่ารุ้งไม่ได้อยู่ในนั้น
บนตำหนัก ทอแสงรัศมีขู่เข็ญอาฆาตจันทร์ จันทร์กราบอ้อนวอนแต่นั่นทำให้นางเฟืองในร่างของทอแสงรัศมีเย้ยหยันยิ่งขึ้น ท่านหญิงลั่นวาจาให้นางเฟืองหยุด ท่านหญิงจะบวชอุทิศแผ่กุศลให้นางเฟืองทั้งหมด ขอให้ทุกคนอโหสิให้นางเฟืองด้วย กรรมใดที่นางเฟืองเคยก่อไว้กับใครท่านหญิงขอรับไว้เป็นกรรมของท่านหญิงเองเพื่อทดแทนความรักของนางเฟือง ทอแสงรัศมีนิ่งงันไปนาน ภาพลางเลือนของนางเฟืองที่ซ้อนอยู่ในร่างทอแสงรัศมี ค่อย ๆ จางลงจนมองได้เห็นแล้ว ทอแสงรัศมีจึงอ่อนตัวจนซวนเซล้มลง
ที่ห้องนางเฟืองซึ่งยังคงว่างเปล่าไม่มีแม้แต่เงาของรุ้ง ฉัตต์และชายเดียวที่กำลังยืนงุนงง เพราะที่ห้อง ร่างของนางเฟืองที่โปร่งใสค่อย ๆ ชัดขึ้น สองหนุ่มเห็นแล้ว จันทร์และจริมาวิ่งพรวดเข้ามา ทุกคนหยุดชะงักเลือดในกายแทบจะแข็ง ร่างผอมเกร็งของนางเฟืองออกเดินไปช้า ๆ จนลับตัวนางเฟือง สิ่งมหัศจรรย์ก็บังเกิด ทุกคนเห็นรุ้งที่นอนอยู่ที่พื้นที่สักครู่นี้ว่างเปล่า ร่างของรุ้งจากโปร่งใสค่อย ๆ ชัดเจนเช่นกัน จันทร์ผวาเข้าไปหาลูกสาวร้องไห้เหมือนใจจะขาด เรียกคุณชายเดียวเข้ามาแล้วพูดเสียงแผ่วเบาแต่ก้องกังวานในโสตประสาทของคุณชายว่า แม่ขอบใจคุณชายที่ช่วยชีวิตน้องสาวแท้ ๆ ของคุณชายไว้ได้
เรื่องราวทุกอย่างถูกเปิดเผย ท่านหญิงบวชตามที่สัญญา ไม่มีการรบกวนจากวิญญาณของเฟืองอีก จันทร์ยังคงยืนยันที่จะอยู่ที่บ้านปัณณธรต่อไป ฉัตต์พบบัญชีรายรับรายจ่ายที่รุ้งจดไว้ และเข้าใจแล้วว่าเงินที่เขาใช้สบายๆ อยู่ทางโน้นคือหยาดเหงื่อและแรงกายของคนทางนี้ ขณะเดียวกัน เขาก็ตระหนักว่าท่าทีที่รุนแรงรังเกียจรุ้งคือ หน้ากากที่เขาใช้ปิดบังความรักที่เขาพยายามซ่อนเร้นตลอดมา พิสินีรู้แท้แล้วว่าฉัตต์รักรุ้งหมดหัวใจ จึงยอมถอนหมั้นกลับไปเรียนต่อต่างประเทศ ฉัตต์สารภาพรักกับรุ้ง ทั้งคู่ไปจุดธูปบอกท่านพ่อของรุ้ง ฉัตต์ขออนุญาติแต่งงานกับรุ้งในที่สุด ส่วนความรักความผูกพันที่มีอยู่ในใจของชายเดียวเสมอมานั้น เมื่อเขารู้แล้วว่ารุ้งคือน้องสาวฝาแฝดของตน ชายเดียวก็ดีใจมาก สัญชาตญาณของความผูกพันในสายเลือดนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าสิ่งใด ชายเดียวไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ เขายังคงนึกถึงใบหน้าอ่อนหวาน นัยน์ตาขี้เล่นของจริมา ความรักของชายเดียวที่ก่อเกิดตั้งแต่ก่อนที่จริมาจะไปเรียนเมืองนอก จึงไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป ชายเดียวสารภาพรักต่อจริมา
งานแต่งงานของ ฉัตต์ กับรุ้ง และ ชายเดียว กับ จริมา ถูกจัดขึ้นในเวลาต่อมา สร้างความดีใจให้แก่ทุกฝ่าย ความแค้นกลายเป็นความรักและการให้อภัย คนที่มีความสุขที่สุดขณะนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากท่านหญิงและจันทร์ ติดตามชม ละครแค้นเสน่หา
แค้นเสน่หา ละครแค้นเสน่หา ละครช่อง3