ดอกซ่อนชู้
ดอกซ่อนชู้
บทประพันธ์ : ณไทย ภัทรกวีกานท์
บทโทรทัศน์ : ศิกานต์
กำกับการแสดง : ดร.องอาจ สิงห์ลำพอง
แนวละคร : ดราม่า เชือดเฉือน
ผลิต : บริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด โดยผู้จัด : เมย์ เฟื่องอารมณ์
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 08.00 น. / 12.40 น. / 19. 50 น. ทางช่อง 8
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรก จันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2558 –
จำนวนตอนออกอากาศ : 28 /+/-
เรื่องย่อละคร “ดอกซ่อนชู้”
ดอกซ่อนชู้ (The Last Memory) เป็นโศกนาฏกรรมความรักที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองได้ 3 ปี มาจนถึงปี พ.ศ. 2487 ซึ่งเป็นยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือสงครามมหาเอเชียบูรพา ส่องสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมและวัฒนธรรมไทยในยุคที่บ้านเมืองไทยกำลังก้าวเข้าสู่ความศิวิไลซ์ตามแบบตะวันตก หากแต่คำนิยมเก่าๆ ยังมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตคนไทยอยู่มาก สิทธิของชายและหญิงยังแตกต่างกันอย่างชัดเจน ผู้ชายสามารถมีภรรยาจำนวนมากได้โดยชอบธรรม ซ้ำยังได้รับการเชิดชูบูชาจากคนในสังคม ในขณะนี้ผู้หญิงนั้นยังถูกลิดรอนสิทธิ หากผู้หญิงคนใดมีชู้จะถูกลงโทษอย่างหนัก และตกเป็นจำเลยของสังคมไปโดยปริยาย
ดอกซ่อนชู้ เป็นเรื่องราวที่สะท้อนจิตใจของมนุษย์ทั้งด้านสว่างและด้านมืด ความต้องการของมนุษย์นั้นไม่เคยมีที่สิ้นสุด ทุกคนพยายามไขว่คว้าให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนปรารถนาเพื่อสนองบำเรอความอยากที่ถมไม่เต็มของตน กิเลส ตัณหา ราคะ ที่บังตาจนมืดมนก่อให๎เกิดความอิจฉาริษยา ความขัดแย่ง การแก่งแย่งชิงดีที่รุนแรงไม่ต่างจากไฟสงครามในใจ
ปี พุทธศักราช 2478 ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ 3 ปี ที่หมู่บ้านเล็กๆ ในอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ดอกแก้ว หญิงสาวชาวบ้านวัย 20 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายน้ำตาลสด หลังจากพายเรือขายน้ำตาลสดในคลองดำเนินสะดวกแล้ว ทุกบ่ายเธอมักจะลักลอบไปหา นิรันดร ชายหนุ่มรูปงามที่สมัครรักใคร่คบหากันมาหลายปี แต่วันหนึ่ง นางแล่ม ขี้เหล้าผีพนันตัวกลั่น มารดาของดอกแก้ว ได้พรากเธอจากอ้อมอกของคนรักซึ่งเป็นเพียงเด็กวัดฐานะยากจน มาขายเป็นเมีย หลวงปกรณ์ราชกิจ ข้าราชการเศรษฐีผู้ร่ำรวยในบางกอก ดอกแก้วจำใจทนทุกข์มาอยู่ที่ บ้านนพรัตน์ ริมคลองบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี ในฐานะเมียแต่งคนที่ 3 ของคุณหลวง เพื่อแลกกับเงินสินสอดจำนวนมากให้ผู้เป็นแม่นำไปถลุงเล่นพนันในโรงบ่อน
เมื่อเข้ามาอยู่ที่บ้านนพรัตน์ เธอได้นำดอกซ่อนชู้ที่เบ่งบานอยู่ริมคลองดำเนินสะดวก มาปลูกในเขตเรือนด้วย
คุณหลวงมีภรรยาอยู่แล้ว 2 คน คือ คุณสร้อยทอง และ คุณลำเจียก เธอทั้งสองเป็นผู้ดีมีตระกูลสูงส่ง ทั้งสองให้ความเมตตาแก่ดอกแก้วซึ่งเป็นสาวชาวชนบทมาก
คุณลำเจียกเป็นผู้หญิงอ่อนโยนเปราะบาง เธอเอ็นดูและสนิทสนมกับดอกแก้วมาก ได้อบรมสั่งสอนกิริยามารยาทและงานบ้านงานฝีมือให้ดอกแก้วทุกอย่าง คุณหลวงมีลูกชายคนหนึ่งชื่อ คุณเทพไท อายุ 17 ปี ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นลูกชายของคุณเทพทองพี่ชายผู้ล่วงลับของคุณสร้อยทอง
คุณหลวงและคุณสร้อยทองได้ให้การอุปการะเด็กชายคนนี้มาจนโต เขาสอบเข้าเป็นนักเรียนแพทย์ที่โรงเรียนราชแพทยาลัยศิริราชพยาบาลได้ คุณหลวงพาดอกแก้วออกงานสังคม จนเธอกลายเป็นสาวสังคมที่โดดเด่นและเก่งกาจในการเต้นรำ ดอกแก้วเริ่มสนิทสนมกับคุณเทพไท เมื่อคุณหลวงให้เธอช่วยพาเขาไปเรียนรู้การออกงานสังคม
ในเวลาต่อมาคุณหลวงได้แต่งภรรยาเพิ่มอีกหนึ่งคน ชื่อ สารภี เธอเป็นอดีตคนรักของคุณเทพไท สารภีต้องแต่งงานกับคุณหลวงเพื่อหนุนฐานะทางการเงินของบ้าน ในขณะที่หัวใจของเธอฝังแน่นอยู่กับคุณเทพไทด้วยความรักล้นใจ
สารภีมีนิสัยเห็นแก่ตัวและไม่ค่อยถูกชะตากับคนอื่นๆในบ้าน รวมทั้งคุณลำเจียกซึ่งไม่เคยเกลียดชังใครเลย คุณลำเจียกได้ให้ดอกแก้วสอนเธอใช้คำหยาบคายเพื่อกำราบสารภี
คุณหลวงให้สารภีเรียนรู้การขับรถกับนายเชต คนขับรถหนุ่มรูปหล่อ ในเวลาต่อมา สารภีตั้งท้องมีทายาทให้คุณหลวงเป็นลูกชายชื่อ สารพัฒน์ ส่วนดอกแก้วมีทายาทให้คุณหลวงเป็นลูกสาวชื่อ กิ่งฟ้า แต่ผู้เป็นสามีกลับไม่ค่อยใส่ใจใยดีเธอกับลูกสาวนัก ด้วยค่านิยมที่ว่า ลูกชายดีกว่าลูกสาว เพราะสามารถสืบสกุลได้ เธอจึงก้มหน้าก้มตาทำงานรับใช้สามีไปอย่างปล่อยปลง
เวลาต่อมาคุณลำเจียกตั้งครรภ์ โดยมีพระทำนายว่าลูกชายในท้องของเธอจะเป็นเจ้าใหญ่นายโตสืบไปภายหน้า ทำให้คุณหลวงกลับมาเห่อคุณลำเจียกอีกครั้ง ประคบประหงมเอาอกเอาใจเธอไม่ห่าง สร้างความไม่พอใจให้แก่สารภี หล่อนจึงรวมหัวกันกับนางอึ่ง บ่าวของคุณลำเจียกใส่ร้ายว่าเธอท้องกับเจ็กลากรถ
อยู่มาวันหนึ่ง นางอึ่ง ถูกคุณลำเจียกใช้ให้ไปปีนเอามะม่วงมากินแก้แพ้ท้อง ขณะฝนตกหนัก นางอึ่งถูกฟ้าผ่าตายที่สวนหลังบ้าน คุณลำเจียก ถูกคุณหลวงทุบตีทำร้ายปางตายจนแท้งลูก หลังจากนั้นเธอมีสภาพจิตที่ผิดปรกติกลายเป็นคนสติวิปลาส
ดอกแก้วต้องรับภาระหน้าที่งานบ้านทุกอย่างแทน เธอปรารถนาจะให้คุณเทพไทแต่งงานมีเหย้ามีเรือนจึงแนะนำให้รู้จักกับหม่อมหลวงรัศมีดารา แห่งวังลดารมย์ ซึ่งเป็นผู้ดีมีชาติตระกูลการศึกษาสูงทายาทของหม่อมดุจเดือนและหม่อมราชวงศ์รังสรรค์สโมสร สหายสนิทของคุณเทพทอง (พี่ชายของคุณสร้อยทอง) จนกระทั่งทั้งคู่ได้หมั้นหมายกัน สร้างความแค้นเคืองใจให้สารภี
ดึกสงัดคืนวันหมั้นสารภีทุบตีทำร้ายดอกแก้วสาหัส ดอกแก้วได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองจนลืมเลือนเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่บ้านนพรัตน์ไปทั้งหมด ลืมสามี ลืมลูก ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แต่กลับจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่บ้านแพ้วได้ชัดเจน เธอเข้าใจผิดคิดว่าคุณเทพไทนั้นคือนิรันดรชายอันเป็นที่รักของเธอ เธอรบเร้าให้เขาพากลับบ้านแพ้ว เมื่อชายหนุ่มมาคอยดูแลเธอที่กำลังเจ็บป่วยด้วยภาวะความจำเสื่อม เธอได้กอดจูบพลอดพร่ำแสดงความรักต่อเขาซึ่งเป็นลูกชายของสามีฉันชู้สาวอย่างที่เคยทำกับนิรันดร
ในวันแต่งงาน (ที่ดอกแก้วตั้งใจให้จัดขึ้นเมื่อครั้งเธอยังสติดีอยู่) ดอกแก้วอาละวาดกลางพิธีจนพังพินาศ ทำร้ายร่างกายหม่อมรัศมีดารา คุณหลวงเจ็บแค้นเสียหน้ามาก จึงสั่งล่ามโซ่และขังเธอไว้ เหตุการณ์เกิดขึ้นในห้วงปี 2487 ซึ่งประจวบกับภาวะสงครามโลกครั้งที่สอง ความวุ่นวายปั่นป่วนในบ้านนพรัตน์ทำให้สมาชิกไร้สิ้นซึ่งความสงบสุข
คุณหลวงทรมานดอกแก้วอย่างสาหัสเพราะแค้นคลั่งเมื่อได้ยินสารภีใส่ร้ายว่าดอกแก้วมีชู้ ในขณะที่ตัวคุณหลวงเองกลับคว้าเอาพุดจีบสาวใช้วัยเด็กมาทำเมียอย่างหน้าตาเฉย ผู้เป็นประมุขของบ้านใช้อารมณ์และความยิ่งใหญ่ของความเป็นผู้ชายตัดสินทุกอย่างโดยไร้เหตุผล
ภรรยาของเขาล้วนมีชื่อพ้องดอกไม้ทั้งหมดทุกคน เป็นดอกไม้ต่างชนิด และต่างจิต ต่างใจ กว่าคุณหลวงจะรู้ความจริงว่าใครดีใครร้าย ใครถูกใครผิดนั้นก็สายเกินแก้
เมื่อเกิดเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ที่บางกอกน้อย เมื่อคืนวันเพ็ญเดือน 12 ปี พ.ศ. 2487 ชีวิตของคนบริสุทธิ์ต้องจบลงพร้อมกับคำครหาใส่ร้าย ทำมกลางกลิ่นหอมของดอกซ่อนชู้สีขาวบริสุทธิ์ที่เบ่งบานอยู่กลางเพลิงสงครามอันร้อนระอุ
ความรักอันบริสุทธิ์ของดอกแก้วได้ผลิบานและร่วงโรยลงในชั่วพริบตา
คาแร็กเตอร์ตัวละคร
1.หลวงปกรณ์ราชกิจ (อายุ 40 ปี) รับบทโดย ผู้พันเบิร์ด-วันชนะ สวัสดี
เศรษฐีคหบดีที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพของผู้คน เป็นทั้งข้าราชการในกระทรวงและเจ้าของกิจการหลายอย่าง รวมถึงเป็นประมุขบ้านนพรัตน์ มีภรรยาอยู่ 5 คนคือ สร้อยทอง ลำเจียก ดอกแก้ว สารภี พุดจีบ ความมักมากเป็นพระยาเทครัวของหลวงปกรณ์เป็นสาเหตุของการชิงดีชิงเด่นระหว่างเมียๆ ทั้งหลาย เป็นคนไม่รู้จักพอในกามตัณหา หูเบา เจ้าอารมณ์ เห็นแก่ตัว แถมยังใจร้ายเลือดเย็น จนกระทั่งในที่สุดก็ต้องพบกับสัจธรรมและความเจ็บปวดที่เกิดจากการเห็นผิดเป็นชอบในตลอดชีวิตที่ผ่านมา
2.สร้อยทอง (อายุ 35 ปี) รับบทโดย ปิ่น-เก็จมณี วรรธนะสิน
เมียเอกของหลวงปกรณ์ มาจากครอบครัวเศรษฐีเจ้าของกิจการร้านยาสมุนไพร ทำให้ช่ำชองเรื่องการปรุงยาสูตรต่างๆ ภายนอกสร้อยทองเป็นสุภาพสตรีที่มีเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่ที่แท้แล้วสร้อยทองซ่อนความร้อนรุ่ม เจ็บแค้นชะตาชีวิตตัวเองไว้ในใจ เพราะเป็นเมียที่ถูกสามีหมางเมินมากที่สุด ความทุกข์ของสร้อยทองผลักดันให้เธอเริ่มเห็นแก่ตัวมากขึ้น และมองทุกคนเป็นศัตรูที่ต้องกำจัด
3. ลำเจียก (อายุ 30 ปี) รับบทโดย เข็มรุจิรา ช่วยเกื้อ
เมียแต่งคนที่สองของหลวงปกรณ์ มาจากครอบครัวผู้ดีตกยาก มาเป็นเมียหลวงปกรณ์เพราะมารดาฝากฝังไว้ก่อนตายอยากให้ลูกสาวได้สุขสบาย ลำเจียกไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีที่พึ่ง จึงเป็นคนขี้เหงา โหยหาความรัก และอ่อนไหว กระทบกระเทือนจิตใจง่าย เมื่อได้พบดอกแก้วก็ยึดเหนี่ยวไว้เป็นเพื่อนแท้ แต่แล้วความเปราะบางของลำเจียกก็ทำให้เธอถูกทำร้ายจากสร้อยทองและสารภีจนมีชะตากรรมหน้าเวทนา
4. ดอกแก้ว (อายุ 22 ปี) รับบทโดย ฟ้า-อริสสา บัวปรางค์
สาวชาวบ้าน จ.สมุทรสงคราม มีอาชีพพายเรือขายน้ำตาลสด เป็นลูกกตัญญูที่ถูกแม่ขายให้มาเป็นเมียหลวงปกรณ์เพื่อแลกกับเงินไปใช้หนี้นายบ่อน ดอกแก้วหัวอ่อนจึงยอมทำตามคำสั่งของแม่ แถมยังเจียมเนื้อเจียมตัว จึงอยู่บ้านนพรัตน์อย่างมีความสุขเพราะพยายามจะทำทุกอย่างให้ทุกคนพอใจ แต่แล้วการได้พบกับเทพไท ก็ทำให้ความซื่อสัตย์ของดอกแก้วสั่นคลอน
5. สารภี (อายุ 22 ปี) รับบทโดย ขนมจีน-กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์
ภรรยาคนที่ 4 ของหลวงปกรณ์ ทายาทโรงพิมพ์ยินดีสารที่ถูกพ่อแม่เอามาขายให้กับหลวงปกรณ์อีกคนเพราะที่บ้านหมดตัวจากไฟไหม้ สารภีเคยหลงรักเทพไทมาก่อนตั้งแต่สมัยอยู่มหาวิทยาลัย พอโดนบังคับให้มาเป็นเมียพ่อ ก็เจ็บแค้น คิดจะถอนทุนคืนด้วยการกอบโกยทรัพย์สมบัติจากบ้านนพรัตน์ให้มากที่สุด เพราะนิสัยเป็นคนขี้อิจฉาริษยา ปากร้าย เจ้าเล่ห์มารยา ทะเยอทะยาน ฉลาดในเรื่องเลวๆ
6. เทพไท (อายุ 22 ปี) รับบทโดย เอี้ยง-สิทธา สภานุชาติ
ลูกชายของพี่ชายและพี่สะใภ้ของสร้อยทองที่เสียชีวิตไปแล้ว สร้อยทองรับอุปการะมาเป็นลูก ส่งเสียเลี้ยงดูเทพไทอย่างดีให้มีความรู้ หวังจะให้เป็นผู้นำครอบครัวในอนาคต เทพไทเลือกเรียนต่อแพทยศาสตร์ เพราะจิตใจที่มีเมตตา เอาใจใส่ต่อทุกคน กตัญญูและรักครอบครัว เทพไทคร่ำเคร่งกับการเรียนโดยไม่มีสายตามองผู้หญิงคนไหน จนกระทั่งได้พบกับดอกแก้ว เขาก็รู้จักความรักครั้งแรก แต่มันกลายเป็น รักต้องห้าม
7. นางแล่ม (42 ปี) รับบทโดย ต้อม-รัชนีกร พันธ์มณี
แม่ของดอกแก้ว เป็นหญิงชาวบ้าน ปากคอจัดจ้านไม่กลัวใคร ขี้เหล้า ติดการพนัน เกียจคร้านทำงาน แต่รักสบาย จึงบีบบังคับให้ดอกแก้วไปเป็นเมียหลวงปกรณ์ ลึกๆ แม้จะเห็นแก่ตัว แต่ก็รักและเป็นห่วงดอกแก้ว คอยปกป้องลูกเมื่อรู้ว่าดอกแก้วถูกรังแก
8. ม.ล. รัศมีดารา (อายุ 22 ปี) รับบทโดย ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์
ธิดาของมรว.รังสรรค์สโมสรกับหม่อมดุจเดือน เป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อม กริยามารยาทเรียบร้อย จิตใจดี อ่อนโยน จบการศึกษาจากต่างประเทศ และกลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มีโอกาสได้รู้จักกับเทพไทตามคำชักนำของพ่อแม่ รัศมีดาราแอบปลื้มเทพไทและเต็มใจที่จะหมั้นหมายกับเขา แต่ก็ต้องเจ็บปวดที่รู้ความจริงในภายหลังว่าหัวใจของเทพไทอยู่ที่ดอกแก้ว
9. ม.ร.ว.รังสรรค์สโมสร ลดารมย์ (55 ปี)
พ่อของรัศมีดารา เคยเป็นอดีตคนรักของสร้อยทองสมัยที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว ก่อนจะแยกย้ายกันไปเมื่อคุณชายรังสรรค์ไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่เมื่อมาพบกันอีกก็เกิดถ่านไฟเก่าปะทุ เพราะคุณชายรังสรรค์อึดอัดกับชีวิตคู่ที่มีภรรยาเจ้าระเบียบ นิสัยใจของคุณชายเป็นคนอ่อนไหว โลเล ขาดความเป็นผู้นำ แต่ก็หยิ่งในศักดิ์ศรีของราชนิกูลจนไม่ต้องการภรรยาที่เป็นช้างเท้าหน้าอย่างหม่อมดุจเดือด
10. หม่อมดุจเดือน (50 ปี) รับบทโดย เงาะ-กรชกร นิมากรณ์
ภรรยาของคุณชายรังสรรค์ เป็นผู้หญิงเก่ง ชอบออกสังคม ช่างพูดเจรจา คอยเป็นหลังบ้านที่ผลักดันสามีจนก้าวหน้าด้านธุรกิจ ทำให้ค่อนข้างทะนงตัวข่มสามีเนืองๆ แถมยังเป็นคนปากกล้าไม่ยอมคน เจ้ายศเจ้าอย่าง ห่วงผลประโยชน์ ทำให้คุณชายรังสรรค์เริ่มเบื่อหน่ายและหันไปหาสร้อยทองที่บังเอิญกลับเข้ามาในชีวิต
11. พุดจีบ (20 ปี)
สาวใช้วัยรุ่นที่เข้ามาอยู่ในบ้านนพรัตน์เพราะพ่อแม่นำตัวมาขัดดอก จนสุดท้ายก็ใช้จริตมารยาตกเป็นเมียอีกคนของหลวงปกรณ์ พุดจีบเป็นคนรู้จักเจ้าเล่ห์มารยา เอาตัวรอดเก่ง แถมยังทะเยอทะยานไม่แพ้สารภี แต่มีความใจกล้าหน้าด้านมากกว่าเพราะไม่มีอะไรจะเสีย ทำให้กลายเป็นคู่ปรับสำคัญของสารภี
12. นายเชต (อาย 20 ปี) รับบทโดย พงศ์สิรี บรรลือวงศ์
คนงานของบ้านยินดีสาร ท่าทางซื่อ เจียมเนื้อเจียมตัว แต่รูปร่างหน้าตาดี จนถูกใจสารภี เมื่อถูกสารภีใช้มารยาหลอกหล่อมากๆ เข้าก็เผลอไผลกลายเป็นชายชู้ จนได้เข้าไปอยู่ในบ้านนพรัตน์ นายเชตหลงสารภีหัวปักหัวปำ จนยอมให้สารภีจูงจมูกทุกอย่าง แต่เมื่อเจอผู้หญิงอย่างพุดจีบ นายเชตก็เริ่มไขว้เขวจากสารภี จนเป็นสาเหตุของการทะเลาะตบตีกันของทั้งสองคน
13. นางพิศ (อายุ 21 ปี) รับบทโดย ลูลู่ – ดวงฤดี บุญบำรุง
บ่าวประจำตัวของสารภี ติดตามมาจากบ้านยินดีสาร คอยเป็นลูกคู่สารภีทุกอย่าง ปากหวานก้นเปรี้ยว เจ้าเล่ห์เพทุบายไม่ต่างกับนาย แถมยังเป็นคนอวดเบ่ง จองหอง เพราะถือว่าบ่าวของเมียคนโปรดหลวงปกรณ์
14. นางอึ่ง (อายุ 43 ปี) รับบทโดย หยา-จรรยา ธนาสว่างกุล
บ่าวบ้านนพรัตน์ ปากมาก ขี้ประจบ ถูกสารภีใช้เงินซื้อเพื่อล้วงความลับของลำเจียก เนื้อแท้ไม่ใช่คนเลวร้าย แต่เกิดความโลภ จึงยอมหักหลังผู้มีพระคุณอย่างลำเจียก กว่าจะรู้สำนึกก็สายเกินแก้
15. นางเอี้ยง (อายุ 17 ปี) รับบทโดย นันทรัตน์ ชาวราษฏร์
ลูกสาวของนางอึ่ง เกิดมาอาภัพเพราะเป็นใบ้พูดไม่ได้ แต่ก็ขยันขันแข็ง จงรักภักดี คอยเป็นเพื่อนรับฟังปัญหาต่างๆ ของดอกแก้ว นางเอี้ยงรักดอกแก้วมาก เพราะรู้ว่าดอกแก้วจิตใจดี
16. โอ่งทอง (อายุ 20 ปี) รับบทโดย หนูเล็ก-ภัทรวดี ปิ่นทอง
ญาติผู้พี่ของดอกแก้ว อาศัยอยู่บ้านแพ้ว ถือเป็นเพื่อนสนิทคนแรกของดอกแก้วที่คอยช่วยเหลือดอกแก้วยามลำบาก และรับอาสาดูแลนางแล่มให้ขณะที่ดอกแก้วมาอยู่บ้านนพรัตน์ เป็นคนตรงไปตรงมา ท่าทางนักเลงไม่กลัวใคร แต่มีความจริงใจ
17. นายไหล (อาย 37 ปี) รับบทโดย โชกุน สันธนะพานิช
หนุ่มใหญ่เชื้อสายจีนโตมาในบ้านของลำเจียก ก่อนที่บ่าวไพรจะกระจัดกระจายกันออกมาเพราะครอบครัวลำเจียกล้มละลาย จึงหันมารับจ้างลากรถ เป็นคนจิตใจดี สุภาพ ถ่อมตน นายไหลกับลำเจียกจึงมีความคุ้นเคยกันเหมือนเพื่อนเล่นวัยเด็ก โดยที่ลำเจียกไม่รู้ว่านายไหลแอบหลงรักตน จึงให้ความสนิทสนมใกล้ชิด จนกระทั่งกลายเป็นที่มาของเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับลำเจียก
18. นางศรี (อายุ 55 ปี) รับบทโดย เอ๋-วชิรา เพิ่มสุริยา
แม่บ้านใหญ่ของบ้านนพรัตน์ เป็นบ่าวที่รับใช้ใกล้ชิดของสร้อยทอง จึงเป็นหูเป็นตาทุกอย่างของสร้อยทอง และคอยเป็นที่รองรับความเจ็บช้ำน้ำใจของสร้อยทอง มีนิสัยจงรักภักดี นอบน้อมถ่อมตน แต่เข้มงวดกับพวกคนงานด้วยกัน แต่ก็ไม่เคยใช้อภิสิทธิ์ในการทำตัวเหนือคนอื่น
19. เพิ่มพูน (อายุ 55 ปี) รับบทโดย อ๋อง-กษาปณ์ จำปาดิบ
พ่อของสารภี เป็นเจ้าของโรงพิมพ์ ขี้ประจบเอาใจเจ้าใหญ่นายโต หัวการค้า มองทุกอย่างเป็นเรื่องผลประโยชน์
20. โกสุม (อายุ 50 ปี) รับบทโดย ปุ้ย-พิมลวรรณ หุ่นทองคำ
แม่ของสารภี ท่าทางคุณนาย ช่างพูดเจรจา โน้มน้าวใจคนเก่ง เห็นแก่เงินไม่แพ้สามี ดุเข้มงวดกับสามีแต่คุมลูกสาวอย่างสารภีไม่อยู่
21. นายคง (อายุ 50 ปี) รับบทโดย บุ๋มบิ๋ม สามโทน
คนสวนบ้านนพรัตน์ เป็นใบ้ และคนสนิทของสร้อยทอง ยอมทำทุกอย่างให้สร้อยทอง ถึงแม้จะผิดก็ตาม
รายชื่อนักแสดง
1 วันชนะ สวัสดี รับบท หลวงปกรณ์
2 เก็จมณี วรรธนะสิน รับบท สร้อยทอง
3 ลภัสสรดา ช่วยเกื้อ รับบท ลำเจียก
4 อริสรา บัวปรางค์ รับบท ดอกแก้ว
5 สิทธา สภานุชาติ รับบท เทพไท
6 รัชนีกร พันธ์มณี รับบท นางแล่ม
7 กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์ รับบท สารภี
8 ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ ฟาง รับบท ม.ล.รัศมีดารา
9 กชกร นิมากรณ์ รับบท หม่อมดุจเดือน
10 พงศ์สิรี บรรลือวงศ์ รับบท นายเชต
11 ดวงฤดี บุญบำรุง รับบท นางพิศ
12 จรรยา ธนาสว่างกุล รับบท นางอึ่ง
13 นันทรัตน์ ชาวราษฎร์ รับบท นางเอี้ยง
14 ภัทรวดี ปิ่นทอง รับบท โอ่งทอง
15 โชกุน สันธนะพานิช รับบท นายไหล
16 วชิรา เพิ่มสุริยา รับบท นางศรี
17 กษาปณ์ จำปาดิบ รับบท เพิ่มพูน (พ่อสารภี)
18 พิมลวรรณ หุ่นทองคํา รับบท โกสุม (แม่สารภี)
19 ณฤพร พสุญาดาผลิน รับบท นางเข็ม
20 บุ๋มบิ๋ม สามโทน รับบท นายคง